Last updated: 23 มิ.ย. 2567 | 331 จำนวนผู้เข้าชม |
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องไขข้อหรือกระดูก และ ผู้ที่แพทย์สั่งให้ต้องใช้วีลแชร์ในการใช้ชีวิตประจำวัน สมัยก่อน ที่รถเข็นไฟฟ้าไม่เป็นที่นิยมเพราะมีราคาสูงกว่าวีลแชร์ปกติเป็นเท่าตัว แต่ในปัจจุบัน ราคาได้ลดลงเกือบๆเท่ากับวีลแชร์ปกติ กลายเป็นผู้คนถกเถียงกันระหว่างวีลแชร์ปกติกับรถเข็นไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ราคาก็อยู่ไล่เลี่ยกัน สู้ซื้อรถเข็นไฟฟ้าไปเลย จะได้อุปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า ฟังก์ชันเยอะกว่า และสะดวกสบายมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะกับการเดินทางไปที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะการไปเที่ยวโดยใช้เครื่องบิน หากต้องการพาผู้สูงอายุหรือผู้ที่จำเป็นต้องใช้วีลแชร์ไปที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด หรือ ต่างประเทศ เครื่องบินก็ย่อมสบายกว่าการเลือกเดินทางโดยพาหนะอื่นๆ การนำวีลแชร์ขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน
การนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน ดีกว่ารถเข็นปกติ ยังไง?
การเดินทางด้วยรถเข็นไฟฟ้าช่วยให้ทั้งผู้ใช้และผู้ดูแลสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับระยะทางเดินแล้ว ผู้ดูแลยังไม่ต้องออกแรงเข็นรถให้ตลอด สามารถแยกกันไปทำธุระได้สะดวกสบายกว่า การใช้รถเข็นปกติจำเป็นต้องใช้ทั้งคนดูแลหรือบางรายอาจต้องออกแรงเข็นเอง ทำให้รู้สึกเหนื่อยกับการเดินทางไปเที่ยวในที่ต่างๆได้ การใช้รถเข็นไฟฟ้าก็จะเข้ามาช่วยทุ่นแรงและทำให้ทริปของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น
รถเข็นไฟฟ้าต่างจากรถเข็นปกติยังไง
1. การใช้รถเข็นไฟฟ้าบังคับผ่านปุ่มหรือรีโมทคอนโทรล แต่ รถเข็นปกติต้องใช้มือหรือผู้ช่วยในการขับเคลื่อน ซึ่งรถเข็นหรือวีลแชร์ไฟฟ้าก็จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ ทำให้ประหยัดแรง ไม่ต้องออกแรงมาก การใช้รถเข็นไฟฟ้าทำให้ช่วยทุ่นแรงผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุได้ และสะดวกสบายมากกว่า
2. รถเข็นไฟฟ้าสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานพึ่งพาตัวเองได้ในหลายๆอย่าง ทั้งการกำหนดทิศทาง หรือการเดินหน้าและถอยหลังก็ตาม แต่ รถเข็นปกติจำเป็นต้องมีผู้ช่วยหรือผู้ติดตามเข้ามาช่วยในส่วนนี้
3. รถเข็นไฟฟ้าบางรุ่นสามารถปรับเอนที่นั่งเพื่อรองรับตามสรีระของผู้ใช้ได้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้มากขึ้น อีกทั้งช่วยลดโอกาสการเกิดแผลกดทับ การยึดตัวหรือการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น รวมถึงภาวะแทรกซ้อนอื่นที่อาจเกิดจากการนั่งวีลแชร์เป็นเวลานานๆ ได้อีกด้วย แต่รถเข็นปกติในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องวัดขนาดที่แม่นยำ หากขนาดหรือตัวมีการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องซื้อใหม่ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเงินมากกว่าเดิม หากขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ
4. หากต้องการนำรถเข็นขึ้นเครื่อง รถเข็นไฟฟ้าจะตอบโจทย์กว่ารถเข็นปกติ เพราะเพียงแค่การเดินทางก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยอยู่แล้ว หากผู้ติดตามเป็นคนในครอบครัว อาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าหรือรู้สึกไม่ดีต่อกันได้ การใช้รถเข็นไฟฟ้าก็จะช่วยทำให้ทั้งผู้ใช้และผู้ติดตามสนุกกับการเดินทางมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆอีกด้วย
ข้อกำหนดของแบตเตอรีรถวีลแชร์ไฟฟ้าที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้
อุปกรณ์ช่วยเหลือการเคลื่อนที่ชนิดมีแบตเตอรี่ ไม่ว่าแบตเตอรี่ประเภทไหนก็ตาม สายการบินจะไม่อนุญาตให้นำรถเข็นและอุปกรณ์ช่วยเหลือการเคลื่อนที่ที่มีแบตเตอรี่ขึ้นห้องโดยสาร จะต้องนำไปโหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่อง โดยต้องดำเนินการจัดเก็บแบตเตอรี่ตามข้อกำหนดของสายการบินนั้นๆ รถวีลแชร์ ที่ใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน ต้องแสดงหลักฐานว่าแบตเตอรี่ได้ผ่านการทดสอบตามคู่มือการทดสอบและกลักเกณฑ์ของสหประชาชาติ (โดยปกติจะขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่) ทั้งนี้ ต้องถอดแบบออกก่อนโหลดใต้ท้องเครื่องบิน แยกใส่ไว้ในกระเป๋าที่เหมาะสม และพกพาไว้ในห้องโดยสาร เหมือนในกรณีของ Power Bank กำลังไฟฟ้าของแบตเตอรี่ดังกล่าวหนึ่งชุดต้องไม่เกิน 300 Wh ถ้าอุปกรณ์ที่ติดตั้งต้องใช้แบตเตอรี่ 2 ชุด ในการทำงาน กำลังไฟฟ้าของแบตแต่ละชุดจะต้องไม่เกิน 160 Wh ส่วนอุปกรณ์เคลื่อนไหวที่ไม่มีแบตเตอรี เช่น ไม้เท้า หรือ โครงเหล็กช่วยพยุงการเดิน ผู้โดยสารสามารถพกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้เลย
การจองตั๋วเครื่องบินหากต้องการนำวีลแชร์ไฟฟ้าไปด้วย
ก่อนเลือกจองตั๋วเครื่องบินควรศึกษารายละเอียดและข้อกำหนดต่างๆของสายการบินที่ต้องการจะจองตั๋วก่อน เพื่อขอคำแนะนำและสอบถามวิธีการนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไปด้วยว่ามีข้อกำหนดและต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วทางสายการบินจะให้ลูกค้ากรอกเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหนักและขนาดของตัวรถ ประเภทและประจุของแบตเตอรี่เพื่อขออนุญาตนำรถเข็นขึ้นไปด้วย ควรดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนถึงวันเดินทาง เพื่อความสะดวกของตัวผู้โดยสารเอง โดยทั่วไปตามกฎของสมาคมการบินนานาชาติ IATA อนุญาตให้นำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไปได้ ซึ่งถ้าผู้ใช้งานเป็นผู้โดยสารจะไม่คิดเป็นน้ำหนักของสัมภาระเพราะคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นต้องการใช้งาน แต่หากผู้ใช้งานไม่ได้โดยสารมาด้วยวีลแชร์ไฟฟ้านั้นจะถูกคิดรวมกับน้ำหนักสัมภาระ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นเพิ่มขึ้นอีก
ดังนั้นการเลือกรถไฟฟ้าที่จะนำขึ้นเครื่องบินก็สำคัญ เราควรเลือกตามความสะดวกและความพึงพอใจของตนเอง และไม่ลืมที่จะคำนึงถึงสิ่งที่เราต้องการหากซื้อมาแล้ว วันนี้เราได้คัดรถเข็นไฟฟ้าที่น่าสนใจมาถึง 4 ตัว ที่มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด สามารถนำขึ้นเครื่องบินด้วยได้ นั่นก็คือ
1. Flex pro
วีลแชร์ไฟฟ้าที่ทำจากอลูมิเนียม แบบพิเศษเกรดท่าอากาศยาน แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา เบาะนิ่ม ดีไซน์ทันสมัย มีล้อกันหงาย ที่วางแขนสามารถพับเก็บเพื่อความสะดวกสบายมาก เหมาะสำหรับการนำขึ้นเครื่องบิน แถมมีสติ๊กเกอร์สะท้อนแสงรอบตัวรถเข็น สำหรับใช้งานในตอนกลางคืน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่มาเตือนระหว่างถอยหลังอัตโนมัติและเข็มขัดนิรภัย 2 ระดับ คือ บริเวณเอว และเข่า สามารถนำขึ้นเครื่องได้โดยการถอดแบตเตอรี่แล้วพกติดตัวเอาไว้ ตัววีลแชร์พับเก็บได้ง่าย ขนาดกะทัดรัด ระบายอากาศได้ดี แบตเตอรี่ลิเธียม 24 โวลต์ 6 แอมแปร์ สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กก. น้ำหนักของตัววีลแชร์คือ 27 กก.
2. Ultra Comfort
ตัวนี้จะต่างจาก Flex pro ตรงที่ด้านล่างของรถเข็นมาพร้อมกับตะกร้า ที่สามารถเก็บของได้ สะดวกในการเดินทาง เบาะสามารถถอดออกมาซักได้ สามารถชาร์จแบตเตอรี่แบบ Off-board ได้ ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม 24 โวลต์ 11 แอมแปร์ น้ำหนักเบา ทนทานต่อการเสื่อม วิ่งได้ไกล 15-18 กม. แต่กระบวนการผลิตใช้วัสดุเดียวกัน มีระบบเบรกภายในตัว สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กก. เหมือนกัน น้ำหนักของตัววีลแชร์คือ 26 กก.
3. Yuwell D130FL
จะต่างจากตัวอื่นตรงที่ สามารถรองรับน้ำหนักแค่เพียง 100 กม. ประหยัดพลังงานที่สุด และสามารถวิ่งได้ไกลที่สุดในบรรดาทั้ง 4 ตัว ก็คือ สามารถวิ่งได้ 20 กม. มีเพียงแค่โหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า สามารถถอดโครงและประกอบเข้าไปใหม่ได้ ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม 24 โวลต์ 12 แอมแปร์ และมีระบบกันน้ำเข้า น้ำหนักของตัววีลแชร์คือ 21 กก.
4. WT-100W (6013 Lightweight)
ผลิตโครงรถเข็นจากจากเหล็ก พ่นกันสนิม สีดำ แข็งแรงทนทาน ล้อทำด้วยยางตันโพลียูรีเทน (PU)ไม่จำเป็นต้องเติมลมส่วนโครงของล้อนั้นผลิตจากอะลูมิเนียม ทำให้ล้อยึดติดกับถนน ขับเคลื่อนได้ดี ใช้มอเตอร์ในการทำงาน สามารถต่อสายชาร์จกับรีโมทควบคุมเอาไว้ได้ ฐานพักเท้าผลิตจากพลาสติก พับได้ สามารถลุกยืนได้สะดวก และไม่โดนสิ่งกีดขวางบนพื้นถนน ขนาดเบา น้ำหนักเพียงแค่ 14.5 กก. สามารถเลือกระบบการใช้งานทั้ง 2 แบบ ทั้งการควบคุมด้วยไฟฟ้าโดยผู้นั่ง และการควบคุมโดยผู้ช่วยเข็นรถเข็น สามารถเดินทางได้มากถึง 10-15 กม.
ทั้งนี้กฎการปฏิบัติขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน ควรเช็คทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน ทั้งกฎสายการบินและตัวรถเข็นไฟฟ้าว่าตรงกับที่แจ้งหรือไม่ เช็คแบตเตอรี เตรียมข้อมูลความพร้อมให้เรียบร้อย หากไม่แน่ใจควรติดต่อกับเจ้าหน้าที่สายการบินก่อน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องยากแถมยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เดินทางอีกด้วย เพียงแค่ทำตามกติกาของแต่ละสายการบินเท่านั้นเอง รถเข็นไฟฟ้าจะทำให้ทริปของคุณไม่น่าเบื่อ สะดวกสบายมากขึ้น และสนุกกับการเที่ยวกับครอบครัวหรือไม่ว่ากับใครก็ตาม
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Email : sale.adlerdrive@gmail.com
Tel : 061-712-3773
Line: https://page.line.me/adlerdrive
15 ส.ค. 2567
12 มี.ค. 2567